Skip to Content

รีวิวเครื่องกรองน้ำสำหรับบ้าน

เครื่องกรองน้ำสำหรับบ้าน


การเลือก เครื่องกรองน้ำ สำหรับบ้านเป็นสิ่งสำคัญในการรับประกันความสะอาดและความปลอดภัยของน้ำดื่มในบ้าน โดยเครื่องกรองน้ำในปัจจุบันมีหลากหลายประเภทและฟังก์ชันที่แตกต่างกันออกไป แต่ละรุ่นก็มีจุดเด่นและข้อดีที่ตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันไป นี่คือ รีวิวเครื่องกรองน้ำที่ดีที่สุดในปีนี้ ที่เหมาะสำหรับการใช้งานในบ้าน


1. เครื่องกรองน้ำ Brita On Tap Faucet Filter

  • ประเภท: กรองน้ำแบบติดก๊อก
  • คุณสมบัติ:
    • สามารถติดตั้งง่ายกับก๊อกน้ำในบ้าน
    • กรองน้ำได้ 150 ลิตรต่อหนึ่งตัวกรอง
    • ใช้เทคโนโลยี Active Carbon ที่ช่วยกรองคลอรีน สารเคมี และกลิ่น
    • กรองได้ทั้งน้ำดื่มและน้ำใช้ในครัว
    • มีการแสดงสัญญาณการเปลี่ยนตัวกรอง
  • ข้อดี:
    • ติดตั้งง่าย ใช้งานสะดวก
    • ลดกลิ่นและรสชาติของน้ำได้ดี
    • ราคาไม่แพง
  • ข้อเสีย:
    • สามารถกรองได้เพียงระดับเบื้องต้น อาจไม่เหมาะกับน้ำที่มีปริมาณสารปนเปื้อนสูง
  • เหมาะสำหรับ: บ้านที่น้ำในพื้นที่มีคลอรีนและสารเคมีปนเปื้อนเล็กน้อย

2. เครื่องกรองน้ำ RO (Reverse Osmosis) Aquasana OptimH2O

  • ประเภท: ระบบกรองน้ำ Reverse Osmosis
  • คุณสมบัติ:
    • กรองน้ำได้หลายขั้นตอน (มี 5 ขั้นตอนในการกรอง)
    • กรองสารพิษ เช่น ฟลูออไรด์ คลอรีน ตะกั่ว และสารปนเปื้อนที่เป็นอันตราย
    • มีระบบกรองน้ำที่ให้ความสะอาดสูงสุดสำหรับน้ำดื่ม
    • ช่วยรักษาสารอาหารที่มีประโยชน์ในน้ำ
    • ติดตั้งง่ายและเหมาะกับการใช้งานในบ้าน
  • ข้อดี:
    • กรองน้ำได้สะอาดและปลอดภัยสูงสุด
    • มีการกรองที่หลากหลายขั้นตอน
    • ช่วยให้มั่นใจว่าน้ำที่ได้มีคุณภาพสูง
  • ข้อเสีย:
    • ราคาแพงเมื่อเทียบกับเครื่องกรองน้ำทั่วไป
    • ต้องเปลี่ยนตัวกรองทุกๆ 6-12 เดือน
  • เหมาะสำหรับ: ครอบครัวที่ต้องการน้ำดื่มที่มีคุณภาพสูงและปลอดภัย

3. เครื่องกรองน้ำ PurePro UF (Ultra Filter)

  • ประเภท: ระบบกรองน้ำแบบยูเอฟ (UF)
  • คุณสมบัติ:
    • กรองน้ำด้วยระบบ Ultra Filter ช่วยกรองสารพิษต่างๆ เช่น ตะกั่ว, คลอรีน, ยาฆ่าแมลง และเชื้อโรค
    • ใช้งานได้ทั้งน้ำดื่มและน้ำใช้
    • ไม่จำเป็นต้องใช้ไฟฟ้า หรือแรงดันน้ำสูง
    • การกรองจะรักษาแร่ธาตุที่มีประโยชน์ในน้ำไว้
  • ข้อดี:
    • ประสิทธิภาพการกรองดีและราคาไม่แพง
    • ระบบ UF ใช้งานได้สะดวกและไม่ต้องเปลี่ยนตัวกรองบ่อย
    • ไม่ใช้ไฟฟ้า
  • ข้อเสีย:
    • ไม่สามารถกรองสารบางประเภทได้ทั้งหมด เช่น ฟลูออไรด์
  • เหมาะสำหรับ: บ้านที่ต้องการเครื่องกรองน้ำที่ไม่ซับซ้อน ใช้งานง่าย และมีประสิทธิภาพในการกรองน้ำเบื้องต้น

4. เครื่องกรองน้ำ 3M Aqua-Pure AP-DWS1000

  • ประเภท: กรองน้ำแบบระบบคาร์บอน
  • คุณสมบัติ:
    • ระบบกรองน้ำแบบคาร์บอนที่สามารถกรองคลอรีน สารพิษและสิ่งสกปรกต่างๆ
    • ระบบกรองหลายขั้นตอน ทำให้น้ำสะอาดและปลอดภัย
    • ลดรสชาติและกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ในน้ำ
    • ติดตั้งง่าย ไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริม
  • ข้อดี:
    • การกรองที่มีประสิทธิภาพ
    • ช่วยลดสารเคมีและสิ่งปนเปื้อนในน้ำ
    • ราคาค่อนข้างคุ้มค่าเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพ
  • ข้อเสีย:
    • ใช้งานได้เฉพาะในพื้นที่ที่มีน้ำไม่ปนเปื้อนมากเกินไป
  • เหมาะสำหรับ: บ้านที่น้ำมีคุณภาพปานกลางและต้องการเครื่องกรองน้ำที่ไม่ซับซ้อน

5. เครื่องกรองน้ำ LG PuriCare™

  • ประเภท: ระบบกรองน้ำแบบ RO (Reverse Osmosis) และ UF
  • คุณสมบัติ:
    • ใช้เทคโนโลยีการกรองน้ำทั้งระบบ Reverse Osmosis และ Ultra Filter
    • กรองน้ำได้หลายขั้นตอน ช่วยขจัดสารเคมีที่อันตรายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    • มีระบบการเตือนเมื่อถึงเวลาต้องเปลี่ยนตัวกรอง
    • ระบบการกรองน้ำมีฟังก์ชันที่รักษาคุณภาพน้ำไว้
  • ข้อดี:
    • ให้ความสะอาดของน้ำได้ดีเยี่ยม
    • เหมาะสำหรับการใช้งานในครัวเรือนที่มีความต้องการน้ำดื่มสะอาดสูง
  • ข้อเสีย:
    • ราคาค่อนข้างสูง
    • ต้องบำรุงรักษาตามระยะเวลา
  • เหมาะสำหรับ: ครอบครัวที่ให้ความสำคัญกับน้ำดื่มที่มีคุณภาพสูง

 

สรุป

การเลือกเครื่องกรองน้ำที่ดีที่สุดขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณของคุณ

  • สำหรับความสะอาดสูงสุด: Aquasana OptimH2O (RO System) หรือ LG PuriCare™ (RO + UF) เหมาะสำหรับครอบครัวที่ต้องการน้ำดื่มที่ปลอดภัยและมีคุณภาพ
  • สำหรับการกรองน้ำทั่วไป: Brita On Tap หรือ PurePro UF เป็นตัวเลือกที่ดีและคุ้มค่าสำหรับบ้านที่ต้องการการกรองพื้นฐาน
  • สำหรับราคาประหยัด: 3M Aqua-Pure เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพในการกรอง

เลือกเครื่องกรองน้ำที่เหมาะสมกับลักษณะน้ำในพื้นที่ของคุณและความต้องการของบ้านเพื่อสุขภาพที่ดี

a white machine with a blue cap


น้ำยาฆ่าเชื้อแบบไหนดีที่สุดสำหรับล้างถังน้ำ?