Skip to Content

เปรียบเทียบค่าน้ำของไทยกับต่างประเทศ ประเทศไหนแพงที่สุด?

เปรียบเทียบค่าน้ำ


การเปรียบเทียบค่าใช้น้ำในประเทศไทยกับต่างประเทศมีความแตกต่างตามประเทศและระบบการจัดการน้ำในแต่ละที่ รวมถึงปัจจัยต่างๆ เช่น ปริมาณการใช้น้ำในแต่ละประเทศ, ค่าใช้จ่ายในการผลิตและจัดหาน้ำ, และนโยบายการบังคับใช้น้ำของรัฐบาล


1. ค่าน้ำในประเทศไทย

ในประเทศไทย ค่าใช้น้ำสำหรับครัวเรือนมักจะคำนวณตามปริมาณการใช้น้ำ โดยอัตราค่าน้ำที่ใช้ทั่วไป (สำหรับพื้นที่กรุงเทพฯ หรือเมืองใหญ่) ประมาณดังนี้:

  • 0-10 ลูกบาศก์เมตร (m³): ประมาณ 10 บาท/m³
  • 11-30 ลูกบาศก์เมตร: ประมาณ 12 บาท/m³
  • 31 m³ ขึ้นไป: ประมาณ 15 บาท/m³

โดยค่าใช้จ่ายน้ำสำหรับครัวเรือนในกรุงเทพฯ หรือบางจังหวัดนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 100-500 บาท ต่อเดือนขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้น้ำ


2. ค่าน้ำในต่างประเทศ

การคำนวณค่าน้ำในต่างประเทศจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น การใช้น้ำในแต่ละประเทศและวิธีการคิดอัตราค่าน้ำ

ประเทศที่มีค่าน้ำสูง

  1. สวิตเซอร์แลนด์:
  • สวิตเซอร์แลนด์มีการใช้ระบบการคิดค่าบริการน้ำตามการใช้งานจริงในระดับที่สูง โดยการคิดค่าใช้จ่ายน้ำสำหรับครัวเรือนอาจสูงถึง 20-30 บาท ต่อ 1 ลูกบาศก์เมตร หรือ 20-30 CHF (ฟรังก์สวิส) ต่อ 1 ลูกบาศก์เมตร
  • ค่าน้ำในประเทศนี้ค่อนข้างสูงเนื่องจากต้นทุนการผลิตน้ำและระบบการบำบัดน้ำที่มีคุณภาพสูง

2. เดนมาร์ก:

  • ค่าใช้น้ำในเดนมาร์กค่อนข้างสูง โดยอัตราค่าน้ำจะอยู่ที่ประมาณ 20-25 DKK (โครนเดนมาร์ก) ต่อ 1 ลูกบาศก์เมตร (ประมาณ 100-130 บาท)
  • ในเดนมาร์กจะมีการคิดค่าใช้จ่ายน้ำตามปริมาณการใช้น้ำจริง พร้อมกับการบำบัดน้ำที่มีมาตรฐานสูง


3. สหรัฐอเมริกา (โดยเฉพาะในเมืองใหญ่):

  • ในบางเมืองของสหรัฐฯ เช่น นิวยอร์ก, แคลิฟอร์เนีย ค่าน้ำอาจอยู่ที่ 3-5 USD (ประมาณ 90-150 บาท) ต่อ 1,000 แกลลอน (ประมาณ 3.8 m³) หรือประมาณ 24-38 บาท/m³
  • ค่าน้ำในบางเมืองอาจสูงขึ้นเนื่องจากการขาดแคลนน้ำในบางพื้นที่ เช่น แคลิฟอร์เนียที่มีการจัดการน้ำที่เข้มงวด

4. ออสเตรเลีย:

  • ในเมืองใหญ่ๆ เช่น ซิดนีย์ หรือ เมลเบิร์น ค่าน้ำอาจอยู่ที่ประมาณ 2-3 AUD (ประมาณ 40-75 บาท) ต่อ 100 ลิตร หรือประมาณ 40-75 บาท/m³
  • ในบางพื้นที่ที่มีปัญหาการขาดแคลนน้ำ ค่าน้ำอาจสูงขึ้นและมีการคิดราคาตามการใช้น้ำเกินปกติ

ประเทศที่มีค่าน้ำถูก

  1. อินเดีย:
  • อินเดียมักจะมีราคาค่าน้ำที่ถูกกว่า เมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาแล้ว ค่าใช้น้ำสำหรับครัวเรือนอาจอยู่ที่ประมาณ 5-10 INR (ประมาณ 2-5 บาท) ต่อ 1,000 ลิตร (1 m³)
  • ระบบน้ำในอินเดียอาจมีคุณภาพต่ำในบางพื้นที่ แต่ค่าใช้จ่ายน้ำถือว่าไม่แพงเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ

2. ประเทศจีน:

  • ประเทศจีนในเมืองใหญ่ๆ เช่น ปักกิ่ง, เซี่ยงไฮ้ อัตราค่าน้ำจะอยู่ที่ประมาณ 3-5 CNY (ประมาณ 15-25 บาท) ต่อ 1 m³
  • แม้ว่าค่าบริการน้ำจะไม่สูงมาก แต่ในบางพื้นที่ยังคงมีการควบคุมและการใช้ประหยัดน้ำอย่างเข้มงวด

3. การเปรียบเทียบค่าใช้น้ำในประเทศต่างๆ

  • สวิตเซอร์แลนด์ และ เดนมาร์ก ถือเป็นประเทศที่มีค่าน้ำแพงที่สุด เนื่องจากการบำบัดน้ำและการจัดการน้ำมีคุณภาพสูงและต้นทุนสูง
  • สหรัฐอเมริกา ก็มีค่าใช้น้ำสูงในบางพื้นที่ โดยเฉพาะในเมืองที่มีปัญหาการขาดแคลนน้ำหรือการจัดการน้ำที่เข้มงวด
  • ประเทศใน แอฟริกา และ เอเชีย เช่น อินเดีย และ ประเทศจีน จะมีราคาค่าน้ำที่ถูกกว่ามาก เนื่องจากค่าครองชีพต่ำกว่าและระบบการจัดการน้ำไม่เข้มงวดเหมือนในประเทศพัฒนาแล้ว

สรุป

การเปรียบเทียบค่าน้ำระหว่างประเทศไทยกับต่างประเทศพบว่า:

  • ประเทศที่มีค่าน้ำสูงสุด ได้แก่ สวิตเซอร์แลนด์ และ เดนมาร์ก ที่มีค่าน้ำสูงเนื่องจากระบบการบำบัดน้ำและจัดหาน้ำมีคุณภาพสูง
  • ประเทศที่มีค่าน้ำถูก ได้แก่ อินเดีย และ จีน ซึ่งมีค่าบริการน้ำที่ต่ำกว่ามาก
  • ประเทศไทยค่าน้ำจะอยู่ในระดับปานกลางเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ โดยค่าใช้จ่ายน้ำส่วนใหญ่จะคำนวณตามปริมาณการใช้น้ำจริง

วิธีคำนวณค่าน้ำในบ้าน คิดยังไงให้จ่ายน้อยลง?